Saturday, December 19, 2015

Review : [รีวิว(ไม่)เวอร์] The One : บัลลังก์รัก เล่ห์มงกุฎ

[รีวิว(ไม่)เวอร์]
มาปิดจ๊อบรีวิวเล่มสุดท้ายของหนังสือชุดนี้แล้วครับผม

ชื่อหนังสือ : The One บัลลังก์รัก เล่ห์มงกุฎ
ผู้เขียน : เคียรา แคสส์
ผู้แปล : อรทัย พันธพงศ์
สำนักพิมพ์ : Spell
ราคา : 275 บาท
จำนวนหน้า : 327 หน้า
เรื่องย่อ : เวลาที่ผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวจะได้สวมมงกุฎมาถึงแล้ว ในบรรดาหญิงสาวสามสิบห้าคนผู้ผ่านการคัดสรร อเมริกา ซิงเกอร์ สาวน้อยจากชนชั้นล่างอาจเป็นคนเดียวที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่า เธอจะมีโอกาสก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่ได้เข้าไปนั่งกลางหัวใจของเจ้าชายรูปงาม แม็กซัน ชรีฟ
แต่ก่อนจะไปถึงปลายทางอันหรูหรางดงามดังฝัน อเมริกาต้องจัดการปัญหาค้างคาระหว่างเธอกับ แอสเพ็น คนรักที่ไม่เคยห่างหายไปจากใจให้ได้เสียก่อน
ขณะที่กบฏผู้หวังโค่นอำนาจราชวงศ์ทวีความโหดร้ายป่าเถื่อน อเมริกาต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากพันธมิตรสุดอันตราย และได้รู้ซึ้งว่า เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องสูญเสียอะไรมากมายเพื่ออนาคต เพื่อมงกุฎที่เธอต้องการ

บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา การคัดสรรจึงกลายเป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวในเล่มนี้เท่านั้น เรื่องของกบฏ การรักษาบัลลังก์ เรื่องของประชาชนจึงกลายมาเป็นส่วนเด่นของเล่มนี้ แต่แน่นอน อเมริกายังเป็นตัวดำเนินเรื่องอยู่ จึงทำให้เธอได้เปิดมุมมองที่กว้างขึ้น และเห็นว่าเธอควรทำอะไรมากขึ้น ไม่ใช่เพียงตำแหน่งเจ้าหญิง หรือหัวใจของเจ้าชายแม็กซัน แต่หมายถึงประชาชนอิลเลียด้วย

แน่นอนเล่มนี้มันมีอะไรมากกว่าความโรแมนติก จึงทำให้ผมได้พบอะไรหลายๆ อย่างในเล่มนี้ โดยเฉพาะเซอเลสท์ หญิงสาวชนชั้นที่สองผู้หมายจะชนะการคัดสรรเพื่อตัวของตัวเองล้วนๆ จนต้องทำสิ่งเลวร้ายทุกอย่างเพื่อให้ตนชนะ แต่พอมาเล่มนี้ ได้เห็นตัวตนจริงๆ ของเซอเลสท์ทำให้ผมหลงรักเธอและให้อภัยในทุกอย่างที่เธอทำจนหมดสิ้นในทันทีทันใด

ท้ายที่สุดแล้วใครที่ได้เป็นผู้ชนะในการคัดสรรก็คงไม่ต้องเดากันหรือสปอยล์ให้ยาก เพราะทุกคนก็คงมีคำตอบตั้งแต่เริ่มอ่านอยู่แล้ว(แน่นอนมันเป็นสูตรสำเร็จอยู่แล้วนี่) แต่กว่าจะมาถึงการตัดสิน เรื่องราวได้นำพาเราไปพบอะไรเยอะแยะมากมาย จนมันคุ้มค่าที่ต้องอ่านจริงๆ(แม้ผมจะแอบบ่นเบื่อจากสองเล่มที่ผ่านมา)

"สิ่งที่แย่กว่าการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น คือการที่เอาตัวตนที่เราเป็นอยู่ ไปเปรียบเทียบกับตัวตนที่เราถูกคาดหวังให้เป็น" The Selection แฝงสิ่งนี้ไว้ในหนังสือทั้งสามเล่มได้อย่างแยบยล ทำให้เราหันกลับมามองตัวตนของเรา กับสิ่งที่เราคาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จนลืมมองสิ่งดีๆ ที่ตัวเองมี

ถ้าผมต้องให้นิยามของหนังสือชุดนี้แบบคนไทยเราเข้าใจง่ายๆ
The Selection คงเปรียบได้กับ The Face
The Elite คงเป็น สงครามนางงาม
ส่วน The One ก็คงเป็น Game of Thrones ในแบบที่ซอร์ฟกว่า แต่ความเข้มข้นไม่แพ้กัน

"นี่ไม่ใช่การอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดกาล
มันมีอะไรมากมายกว่านั้นเยอะ"

คะแนนรีวิว : ไม่เคยคิดว่าจะให้หนังสือชุดนี้ได้ถึงขนาดนี้ แต่ The One เอาไป 9/10 คะแนนเลยครับ

No comments:

Post a Comment